วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Software


     Software คืออะไร

Software เป็นชุดคำสั่งที่ใช้ในการสั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน โดยจะอยู่ในลักษณะเป็นชุดคำสั่งหรือที่เรารู้จักในรูปแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพราะฉะนั้นการทำงานของตัว Software จึงเหมือนตัวกลางที่คอยติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้งาน และคอมพิวเตอร์ให้เข้าใจกัน
ซอฟต์แวร์
Windows 10 – ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติล่าสุดจาก Microsoft
Software มีกี่ประเภท
พวกเราสามารถแบ่ง Software ได้เป็น 2 ประเภท คือ
1.ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) ซอฟต์แวร์ระบบเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อใช้ในการควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้การติดต่อประสานกันระหว่าง อุปกรณ์แต่ละชิ้น โปรแกรมแต่ละโปรแกรม ให้สามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหา System Software ที่รู้จักและเป็นที่นิยมกันมาก เช่น Windows , OSX, Linux เป็นต้น




ซอฟต์แวร์ระบบแบ่งออกเป็น 3 ชนิด
  • ระบบปฏิบัติการ (Operating System)
  • ตัวแปลภาษา ( Language translators)
  • ปรแกรมอรรถประโยชน ( Utility program)
1. ระบบปฏิบัติการ หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า โอเอส (Operating System: OS) เป็นซอฟต์แวร์ใช้ในการดูแลระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต้องมีซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการนี้ ระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้กันมากและเป็นที่รู้จักกันดีเช่นดอส
1.ระบบปฏิบัติการดอส Disk Operating System : (DOS)
2.วินโดวส์ (Windows)
3.แมค (Mac)
4. ยูนิกซ์ (UNIX)
5.ลีนุกซ์(LINUX)

1) ระบบปฏิบัติการดอส
ระบบปฏิบัติการดอส Disk Operating System : (DOS) เป็นระบบปฏิบัติการศำหรับพีซี พัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2524 โดย บิล เกตส์ (Bill Gates) และ พอล อเลน (Paul Allen) มีส่วนติดต่อกับผู้ใช้เป็นแบบบรรทัดฐานคำสั่งโดยผู้ใช้ต้องป้อนข้อความคำสั่งที่ละ 1 ข้อความ และต้องจดจำรูปแบบของคำสั่งให้ถูกต้อง จึงสามารถทำงานได้ตามต้องการ

2) ระบบปฏิบัติการวินโดวส์
ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) เป็นระบบปฏิบัติการของบริษัทไมโครซอฟต์ที่มีส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบกราฟิก ซึ่งประกอบด้วยไอคอนที่เป็นรูปภาพแทนโปรแกรมสั่ง หรือไฟล์ต่าง ๆ และหน้าต่างแสดงขอบเขตการทำงาน ระบบปฏิบัติการวินโดวส์สามารถทำงานได้ทีละหลายงานพร้อมกัน (multitasking) ระบบปฏิบัติการวินโดวส์มีการพัฒนาหลายรุ่น เช่น วินโดวส์เอกซ์พี (Windows XP) วินโดวส์วิสต้า (Windows Vista) วินโดวส์เซเวน (Windows 7)

3) ระบบปฏิบัติการแมค
ระบบปฏิบัติการแมค (Mac) เป็นระบบปฏิบัติการของบริษัทแอปเปิ้ล (Apple lnc.) ถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 เป็นระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานมาจากระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ และเป็นผู้บุกเบิกส่วนติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิก ระบบปฏิบัติการแมคมีการพัฒนาหลายรุ่น เช่น แมคโอเอสรุ่นที่ 9 (Mac OS 9) แมคโอเอสรุ่นที่ 10 (Mac OS x)

4) ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์
ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX) พัฒนาโดยกลุ่มพนักงานห้องปฏิบัติการเบลล์ของ เอทีแอนด์ที (AT&T’s Bell Laboratories) ในปี พ.ศ. 2512 ยูนิกซ์เป็นระบบปฏิบัติการแรกที่มีความสามารถด้านการประมวลผลแบบหลายงาน (Multitasking) มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกันที่เรียกว่า ระบบหลายผู้ใช้ (Multiuser) ในช่วงแรกระบบปฏิบัติการยูนิกซ์นิยมใช้กับคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายเพื่อใช้งานร่วมกันหลายเครื่องพร้อมกัน ในภายหลังระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ได้รับการพัฒนาให้สามารถให้กับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์และในปัจจุบันสามารถใช้กับพีซีได้ ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์เริ่มต้นจากการมีส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบบรรทัดฐานคำสั่ง ในปัจจุบันมีส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบกราฟิก เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น

5) ระบบปฏิบัติการลินุกซ์

ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ (Linux) พัฒนาโดยกลุ่มกะนู (GNU’s Not UNIX: GNU) ในปี พ.ศ. 2534 โดย ไลนัส ทอวาล์ด (Linus Torvaids) เป็นระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานมาจากระบบปฏิบัติการยูนิกซ์และเป็นซอฟต์แวร์แบบรหัสเปิด (open source software) ซึ่งมีการแจกจ่ายรหัสต้นฉบับ (source code) ให้ผู้ใช้ที่มีความสนใจช่วยกันพัฒนาเพื่อให้ระบบปฏิบัติการลินุกซ์สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลินุกซ์ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้พีซีเนื่องจากไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อซอฟต์แวร์ จึงได้รับความร่วมมือของนักพัฒนาทั่วโลกในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับระบบปฏิบัติการลินุกซ์ ระบบปฏิบัติการลินุกซ์สามารถทำงานได้ทั้งกับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาไปจนถึงซุปเปอร์คอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการยังมีอีกมาก โดยเฉพาะระบบปฏิบัติการที่ใช้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกันเป็นระบบ เช่น ระบบปฏิบัติการเน็ตแวร์ วินโดว์สเอ็นที

2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) เป็นชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นมาเป็นโปรแกรมที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้เฉพาะได้ พูดง่ายๆ ก็คือ โปรแกรมที่เรากำลังใช้กันอยู่ทุกวันนี้นี่เอง ซอฟต์แวร์ประยุกต์ยังแบ่งได้อีก 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป เช่น ซอฟต์แวร์นำเสนองาน ซอฟต์แวร์การติดต่อสื่อสารและเข้าถึงข้อมูล และอีกประเภท คือ ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน ซึ่งจะทำขึ้นเพื่อใช้งานเฉพาะเท่านั้น เช่น โปรแกรมสำหรับควบคุมเครื่องจักรกล

Software ประยุกต์ทั่วไป
พัฒนาขึ้นเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับงานตามลักษณะงานของผู้ใช้คอมพิวเตอร์นั้นๆ เช่น การจัดพิมพ์รายงาน , การจัดทำบัญชี , การออกแบบเว็บไซต์ เป็นต้น  Software ประยุกต์ทั่วไป แบ่งออกได้เป็น 6 ประเภท ดังนี้
  1. Software จัดการฐานข้อมูล เป็นโปรแกรมซึ่งทำหน้าที่สร้างฐานข้อมูลรวมทั้งจัดการกับข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความง่ายต่อการจัดการข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเรียกค้น , ปรับปรุง , การเพิ่ม , การลบ Software จัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้ ได้แก่ Dbase , Microsoft Access เป็นต้น โปรแกรมเหล่านี้จะคอยเก็บข้อมูลไว้ในรูปแบบของตารางอันมีความสัมพันธ์กัน โดยแต่ละตารางจะประกอบไปด้วย Record และ Field แต่ล่ะ Record จะประกอบไปด้วย Field ของข้อมูลที่ต้องการเก็บ เช่น ฐานข้อมูลพนักงาน ก็จะมีการจัดเก็บประวัติพนักงาน ซึ่งประกอบไปด้วยรายละเอียด เช่น ชื่อ , นามสกุล , วันเกิด , เพศ , ที่อยู่ , เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น
  2. Software ประมวลผลคำ เป็น Software ประยุกต์สำหรับใช้ในการสร้าง , แก้ไข , เพิ่ม , แทรก , ลบ รวมทั้งจัดการรูปแบบเอกสาร ทำให้เอกสารมีความสวยงาม น่าดึงดูด ซึ่งเอกสารนี้ สามารถแก้ไข-เพิ่มเติมได้ สั่งปริ๊นออกมาทางเครื่องปริ๊นได้อีกด้วย Softwareประมวลผลคำยอดนิยม เช่น Microsoft Office Word , Adobe Indesign , WordPerfect , OpenOffice เป็นต้น
  3. Software คำนวณ ช่วยในการคิดคำนวณ สามารถสั่งให้คำนวณตามสูตรหรือเงื่อนไข อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถสร้างกราฟ เพื่อง่ายต่อการนำเสนอ  Software ที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Office Excel , Pladao Office เป็นต้น
  4. Softwareนำเสนอข้อมูล ใช้นำเสนอข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ สร้างเอกสารอันมีตัวอักษร , รูปภาพ , แผนผัง , ภาพเคลื่อนไหว ส่วนใหญ่ใช้ในการนำเสนอข้อมูลหรือประกอบการบรรยายในชั้นเรียนหรือการประชุม Softwareที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Office PowerPoint , Pladao Office เป็นต้น
  5. Softwareทางด้าน Graphics และ Multimedia เป็นโปรแกรมซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยงานด้าน Graphics และ Multimedia เช่น ตกแต่งภาพ , วาดรูป , ปรับเสียง , ตัดต่อภาพเคลื่อนไหว , งานสิ่งพิมพ์ รวมถึงการสร้างออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ มีข้อดีคือ เป็นโปรแกรมง่ายต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีลูกเล่นอันหลากหลาย , สามารถสั่งงานตามความต้องการได้ง่าย , ซึ่งถือเป็นอีกโปรแกรมที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานทุกระดับ
   6. Softwareสำหรับใช้งานบนเว็บไซต์และการติดต่อสื่อสาร ใช้งานเพื่อการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น โปรแกรมสำหรับเช็ค E-mail , Google , การดูแลเว็บไซต์ รวมถึงการประชุมทางไกลผ่านเครือข่าย เป็นต้น
ประโยชน์ที่มากมายของ Software
Software เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานประเภทต่างๆ ได้ เช่น เข้าถึงสื่อข้อมูลต่างๆ ใช้งานประเภทโปรแกรมแปลภาษา โปรแกรมด้านการคำนวณ โปรแกรมประมวลผลคำ หรือระบบการจัดการต่างๆ ซึ่งตัวอย่างที่บอกมานี้ช่วยให้การทำงานของพวกเราเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากขึ้นครับ
Software หลายๆตัวมีราคาสูง อาจะเป็นเพราะผู้ผลิตอยู่ในต่างประเทศ เมื่อมีการนำเข้ามาในประเทศไทย ราคาก็ย่อมสูงเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทุกวันนี้ผู้คนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกันได้มากขึ้น จึงทำให้ Software หลายตัวมีผู้คนนำมาลงไว้ให้คนอื่นได้สามารถ download ไปใช้งานกัน ซึ่งถ้าเป็นประเภท Freeware ผู้ผลิตอนุญาตให้เราใช้งานกันได้ไม่เสีเงินแต่บางประเภทเป็นแบบ Shareware หรือเวอร์ชั่นทดลองใช้ แต่เราพยายามหาวิธีการเพื่อให้ใช้งานได้ตลอด การทำแบบนี้เป็นความผิดได้นะครับ เพราะฉะนั้นอย่างไร เราก็ควรที่จะใช้ Software ที่ถูกต้องตามกฎหมายนะครับ เพื่อผู้ผลิตจะได้มีกำลังใจในการสร้าง Software ที่ดีมาใช้กันนะครับ

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ขั้นตอนการหุงข้าวในค่ายลูกเสือ



      การถ่ายทอดความคิดเป็นรหัสลำลองการหุงข้าวในค่ายลูกเสือ(ใช้เตาถ่าน)  
รหัสลำลอง



เริ่มต้น

  1.     จุดไฟตั้งเตาถ่าน
  2.     ตวงข้าวสารประมาณ 2-3 ถ้วยตวงใส่หม้อ
  3.     เทน้ำลงในหม้อ ซาวน้ำล้างข้าวให้สะอาด
  4.     ใส่น้ำในหม้อให้ประมาณ1/3ของนิ้วชี้
  5.     ตั้งหม้อลงบนเตาถ่าน
  6.     ปิดฝาหม้อแล้วทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที
  7.     รอให้ข้าวสุก โดยระวังไม่ให้ข้าวไหม้
  8.     เมื่อสุกแล้วจึงนำออก
จบ 















วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ทัศนศึกษา2561

      

ทัศนศึกษา อุทัยธานี



                                          












วัดจันทาราม หรือวัดท่าซุง ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี 















วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

พัฒนาการของการติดต่อสื่อสาร


พัฒนาการของการสื่อสารข้อมูล

การเปลี่ยนแปลงทางสังคมของโลก นับตั้งแต่มนุษย์ได้มีการรวมกลุ่มกันเป็นสังคมขนาดใหญ่ตั้งแต่โบราณนั้น ก็เริ่มมีการสื่อสารเกิดขึ้น ความเจริญก้าวหน้าของการสื่อสารก่อนที่จะมาถึงปัจจุบันนั้น ย่อมมีพัฒนาการมายาวนาน ก่อนที่จะมียุคของการสื่อสารนั้น ยุคโบราณเป็นยุคที่มนุษย์มีการใช้ภาษาในการติดต่อสื่อสารกันอย่างจำกัด แต่ได้ผลดีเพราะมีคนจำนวนน้อยการสื่อสารจึงไม่ซับซ้อน ส่วนใหญ่จะสื่อสารกันด้วยการใช้ท่าทาง หรือแม้กระทั่งการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ เช่น การวาดภาพตามผนังถ้ำมากกว่าการใช้ภาษาในการสื่อสารซึ่งกันและกัน การสื่อสารในยุคนี้เป็นการสื่อสารกลุ่มย่อยเท่านั้น เชื่อว่ายังไม่มีการสื่อสารแบบมวลชนเกิดขึ้น ดังนั้นจึงสามารถแบ่งการสื่อสารออกได้เป็น ยุค ดังนี้

          1.  การสื่อสารยุคโบราณ เป็นการสื่อสารที่นิยมใช้ในอดีต ซึ่งปัจจุบันไม่มีการสื่อสารด้วยวิธีนี้ หรือไม่นิยมใช้การสื่อสารประเภทนี้แล้ว การสื่อสารในยุคโบราณจะกระทำเพื่อตอบสนองต่อความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ใช้ถ่ายทอดข้อมูลที่ไม่มีความสลับซับซ้อน และตัวกลางที่ใช้มักจะมีประสิทธิภาพน้อย และไม่มีความสะดวกรวดเร็วในการสื่อสาร ตัวอย่างการสื่อสารในยุคโบราณ เช่น

 -  ภาพบนผนังถ้ำ

        เป็นการสื่อสารของบุคคลสมัยโบราณเพื่อบอกเล่าวิถีชีวิตของตนเอง ด้วยการใช้สีธรรมชาติหรือก้อนหินขีดเขียนและวาดภาพต่าง ๆ  ไว้บนผนังถ้ำหรือก้อนหิน การวาดภาพบนผนังถ้ำจัดเป็นการสื่อสารรูปแบบแรกของมนุษย์ ที่ยังมีหลักฐานปรากฏให้เห็นได้ในปัจจุบัน

ภาพฝาผนังของมนุษย์สมัยโบราณ

-  ควันไฟ  

         เป็นการสื่อสารโดยใช้กลุ่มของควันไฟแทนสัญลักษณ์ต่าง ๆ  เพื่อสื่อสารไปยังผู้รับสาร โดยผู้ส่งสารจะต้องก่อกองไฟในที่สูงเพื่อให้ผู้รับสารสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล การสื่อสารประเภทนี้มีความผิดพลาดได้ง่าย เนื่องจากควันไฟอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพอากาศ ทำให้เกิดการตีความหรือแปลสัญลักษณ์นั้น ๆ  ผิดพลาดได้ และทุกคนสามารถมองเห็นควันไฟจากผู้ส่งสารได้ จึงไม่สามารถเก็บความลับของข้อมูลจากบุคคลอื่น ๆ  ที่รู้รหัสหรือสัญลักษณ์นั้นได้


การจุดควันไฟเพื่อสื่อสารในสมัยโบราณ

-  วิ่งผลัด

        เป็นการสื่อสารโดยใช้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลส่งต่อข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของสารต่อกันไปเรื่อย ๆ  จนถึงปลายทาง คล้ายลักษณะของการวิ่งผลัด ทำให้สามารถสื่อสารได้สะดวกและส่งข้อมูลถึงผู้รับสารได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ควันไฟ แต่มักมีปัญหาเรื่องความลับของข้อมูลที่ใช้ในการสื่อสาร

-  นกพิราบสื่อสาร

        ป็นการสื่อสารโดยใช้สัตว์เป็นตัวกลางหลักในการสื่อสาร โดยใช้ธรรมชาติในการรู้ทิศทางของนกพิราบที่จะเดินทางกลับรังหรือที่อยู่ของมันได้ไม่ว่าจะถูกส่งมาจากที่ใด จึงมีการผูกข้อความหรือข้อมูลสั้น ๆ  ที่ขาหรือแขวนที่คอของนกพิราบ แล้วให้ผู้รับสารรอรับสารได้จากรังหรือที่อยู่ของนกพิราบ การสื่อสารด้วยการใช้นกพิราบสามารถรักษาความลับของข้อมูลได้เป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาในการสื่อสารได้อย่างแน่นอน และไม่สามารถส่งข้อมูลหรือข้อความในปริมาณมาก ๆ  ได้ ปัจจุบันมีการใช้นกพิราบสื่อสารเพื่อการแข่งขันมากกว่าการใช้เพื่อส่งข้อมูลหรือสื่อสารในชีวิตประจำวัน  


การสื่อสารโดยใช้นกพิราบ

-  ม้าเร็ว 

        เป็นการสื่อสารโดยใช้มนุษย์และสัตว์เป็นสื่อกลางในการสื่อสาร ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากกว่าการวิ่งผลัด  เนื่องจากประสิทธิภาพของการสื่อสารขึ้นอยู่กับบุคคลที่บังคับม้าและม้าเป็นหลัก ทำให้สามารถสื่อสารหรือส่งข้อมูลได้รวดเร็ว รักษาความลับของข้อมูลและส่งข้อมูลไปยังผู้รับสารได้ถูกต้องกว่าการสื่อสารด้วยการวิ่งผลัด

การใช้ม้าเร็วเพื่อการติดต่อสื่อสาร

2.  การสื่อสารยุคอุตสาหกรรม เป็นการสื่อสารที่ยังนิยมใช้ในปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มที่จะเลิกใช้ในอนาคต เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการสื่อสารใหม่ ๆ  เข้ามาแทนที่ การสื่อสารยุคอุตสาหกรรมจะมุ่งเน้นประสิทธิภาพมากกว่าการสื่อสารยุคโบราณ ตัวอย่างการสื่อสารในยุคอุตสาหกรรม เช่น


 -  โทรศัพท์หรือเทเลโฟน (Telephone) 

        เป็นการสื่อสารสองทิศทางพร้อมกัน แต่สามารถรับและส่งข้อมูลได้ในรูปแบบเสียงเท่านั้น โดยผู้สื่อสารทั้งสองฝ่ายจะต้องมีโทรศัพท์เพื่อใช้ในการสื่อสาร เวลาสื่อสารจะเป็นเวลาจริงในช่วงนั้น ๆ (Real Time) หากผู้รับข้อมูลไม่อยู่หรือมีความผิดพลาดด้านเวลาก็จะทำให้การสื่อสารไม่สามารถทำได้ โทรศัพท์มีพัฒนาการต่อเนื่องและยาวนานโดยเป็นพื้นฐานของการพัฒนาโทรศัพท์แบบไร้สายหรือโทรศัพท์แบบพกพา การใช้โทรศัพท์จะต้องติดตั้งเครื่องรับ เครื่องส่ง และสายโทรศัพท์ในพื้นที่ที่ให้บริการหรือมีสายโทรศัพท์จากหน่วยงานที่ให้บริการเท่านั้น จึงนิยมติดตั้งในที่อยู่อาศัย สำนักงาน และสถานที่สาธารณะต่าง ๆ  ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารมากนัก โทรศัพท์ประเภทนี้จะใช้ระบบการทำงานแบบ แอนะล็อก (Analog) โดยใช้สายโทรศัพท์เป็นตัวกลางในการรับและส่งข้อมูล


-  โทรสารหรือแฟกซ์ (Fax)

         พัฒนามาจากการสื่อสารประเภทโทรศัพท์ เพื่อให้สามารถส่งข้อมูลในรูปแบบตัวอักษรหรือข้อความไปยังผู้รับสารได้มากกว่าข้อมูลเสียงเพียงอย่างเดียว มีลักษณะการใช้งานเหมือนโทรศัพท์ ในการส่งข้อมูลด้วยโทรสารผู้ส่งสารและผู้รับสารจะต้องเปิดใช้เครื่องโทรสารจึงจะสามารถส่งข้อมูลได้ และไม่สามารถส่งข้อมูลเอกสารผ่านโทรสารได้พร้อมกับการส่งข้อมูลเสียง การสื่อสารด้วยโทรสารนี้ ข้อมูลต้นฉบับจะยังคงอยู่ที่ผู้ส่งสาร โดยผู้รับสารจะต้องมีกระดาษสำหรับคัดลอกข้อมูลที่ส่งไปยังปลายทาง

 

-  จดหมายและพัสดุ (Letter and Inventories)

        เป็นการสื่อสารในรูปแบบดั้งเดิมโดยใช้บริการในการส่งจดหมายและพัสดุจากหน่วยงานให้บริการการสื่อสาร คิดอัตราค่าบริการตามน้ำหนักและระยะทางในการส่งจดหมายและพัสดุ ซึ่งการสื่อสารด้วยวิธีการนี้ได้รับการยอมรับและน่าเชื่อถือกว่าการสื่อสารในรูปแบบอื่น สามารถกำหนดระยะเวลาในการสื่อสารได้แน่นอน และสามารถส่งข้อมูลได้ในปริมาณมาก ส่งข้อมูลได้ทุกรูปแบบ และมีพื้นที่ให้บริการทั่วโลก


3.  การสื่อสารในยุคปัจจุบันหรือการสื่อสารยุคโลกไร้สาย เป็นการสื่อสารที่มุ่งเน้นความสะดวกสบายของผู้ใช้และประสิทธิภาพของข้อมูลที่ใช้ในการสื่อสารเป็นหลัก ผู้สื่อสารจะต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างดี จึงจะสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 -  ไวไฟ (Wi-Fi)

       เป็นระบบเชื่อต่ออุปกรณ์ที่ทำงานบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไร้สาย (Wireless LAN) โดยใช้คลื่นสัญญาณวิทยุทำให้สามารถติดต่อสื่อสารข้อมูลได้ระหว่างอุปกรณ์นั้น ๆ  ปัจจุบันนิยมติดตั้งอุปกรณ์รับและส่งสัญญาณ   ไวไฟในคอมพิวเตอร์แบบพกพา เพื่อให้สามารถค้นหาสัญญาณไวไฟที่ส่งมาจากคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้คอมพิวเตอร์แบบพกพานั้นสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ด้วย ผู้ใช้ไวไฟสามารถติดต่อสื่อสารได้ด้วยข้อมูลทุกรูปแบบที่อยู่ในรูปแบบของไฟล์ข้อมูลแต่จะมีความเร็วในการสื่อสารน้อยกว่าการสื่อสารในระบบเครือข่ายที่ใช้สายรับและส่งสัญญาณ

 -  ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล (Electronic Mail หรือ E-Mail)

        เป็นการใช้คอมพิวเตอร์ส่งข้อความในรูปของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปยังบุคคลอื่น การสื่อสารนี้ผู้ใช้จะต้องมีที่อยู่ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้รับหรืออีเมลแอดเดรส (E-Mail Address) เช่น banana123@yahoo.com ผู้ส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถส่งข้อมูลเวลาใดก็ได้ เนื่องจากข้อมูลที่ส่งไปจะฝากไว้บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เมื่อผู้รับเข้าสู่ระบบและเรียกใช้บริการก็จะได้รับข้อความโดยไม่ต้องรอให้เวลาตรงกัน นอกจากนี้ยังสามารถส่งข้อมูลได้หลายรูปแบบในปริมาณที่มากกว่าการส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Short Message) และสามารถส่งข้อมูลไปยังผู้รับหลาย ๆ  คนได้ในเวลาเดียวกัน

-  บลูทูท (Bluetooth)

        เป็นระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อสื่อสารระหว่างอุปกรณ์นั้น ๆ  โดยอาศัยคลื่นความถี่หรือสัญญาณวิทยุ ตัวอย่างการเชื่อมต่อบลูทูท เช่น การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์แบบพกพากับโทรศัพท์เคลื่อนที่   การเชื่อต่อระหว่างโทรศัพท์เคลื่อนที่กับสมอลล์ทอล์ก (Small talk) บลูทูทสามารถเชื่อมต่อเพื่อสื่อสารข้อมูลได้ในระยะทางใกล้ ๆ  ไม่เกิน 10 เมตร ทำให้ต้องสื่อสารข้อมูลในระยะทางใกล้กว่าการสื่อสารด้วยไวไฟ นอกจากนี้บลูทูทยังมีประสิทธิภาพด้านความเร็วในการสื่อสารน้อยกว่าไวไฟอีกด้วย

-  การสนทนาออนไลน์หรือแชท (Chat)

        เป็นการสนทนาระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ปัจจุบันสามารถพัฒนาให้ใช้ภาพกราฟิก ภาพการ์ตูนหรือภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ  แทนภาพผู้สื่อสารได้ นอกจากการสนทนาแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีลักษณะเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ได้อีกด้วย การสนทนาแบบนี้เป็นการสนทนาแบบโต้ตอบในเวลาเดียวกัน ดังนั้นผู้สื่อสารจึงต้องออนไลน์พร้อมกัน การสนทนาออนไลน์ในบางโปรแกรมจะมีการแบ่งการสนทนาออกเป็นห้อง ๆ  หรือเป็นกลุ่มสนทนา โดยผู้ใช้ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีโปรแกรมสำหรับใช้สนทนา

 

-  วีดีโอทางไกล (Video Conferencing)

       เป็นการสื่อสารข้อมูลโดยการส่งภาพและเสียงจากฝ่ายหนึ่งไปสู่อีกฝ่ายหนึ่ง การใช้วิดีโอทางไกลต้องมีอุปกรณ์สำหรับบันทึกภาพและอุปกรณ์บันทึกเสียง โดยที่ภาพและเสียงที่ส่งไปนั้นสามารถแสดงเป็นภาพเคลื่อนไหวที่มีเสียงประกอบได้ ปัจจุบันหลายหน่วยงานนำวิธีสื่อสารแบบวิดีโอทางไกลมาใช้เพื่อการประชุมมากขึ้น เพราะช่วยให้หน่วยงานประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตัวอย่างการใช้ประโยชน์วิดีโอทางไกล เช่น การนำวิดีโอทางไกลมาใช้ทางการศึกษา ทำให้นักเรียนสามารถรับฟังการบรรยายจากอาจารย์ซึ่งอยู่อีกที่หนึ่งได้โดยไม่ต้องเดินทางไปเรียนด้วยตนเอง และยังสามารถโต้ตอบระหว่างคู่สนทนาได้ เนื่องจากมีกล้องดิจิทัล ไมโครโฟน และลำโพง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายเห็นและได้ยินเสียงซึ่งกันและกัน




อ้างอิงจาก : https://sites.google.com/site/suxkarsxnmtr1/hnwy-thi-1-reuxng-hlak-kar-beuxng-tn/reuxng-thi-3-phathnakar-khxng-kar-suxsar-khxmul

Profile


ชื่อ : รศนา ฤทธิ์ลำเจียก
ชื่อเล่น : ปาน
อายุ : 13 ปี
วัน/เดือน/ปีเกิด 08/03/2548
Facebook : Rodsana Ritlamchiak
Instagram : zhxqj
Twitter : @YgRsnrlch
G-mail : kimpan171197@gmail.com
แนวเพลง : K-POP
วงบอยแบรนด์ที่ชอบ : GOT7  WANNAONE  BTS 
วงเกิร์ลกรุ๊ปที่ชอบ : BLACKPINK  (G)I-DEL